วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วิะธีการเลือกผักและผลไม้

การเลือกซื้อผักผลไม้

ผักและผลไม้เป็นอาหารประจำวันที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และกากใยอาหาร ซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แจ่มใส มีแรงต้านทานโรค ทำให้ผิวพรรณและนัยน์ตาสดใส เหงือกและฟันแข็งแรง ช่วยระบบประสาท ช่วยให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารทำงานด้วยดี
แต่เนื่องจากในสังคมปัจุบัน เทคโนโลยีการเกษตรมีการพัฒนามากขึ้น การใช้สารพิษกำจัดแมลงจึงมีอยู่ทั่วทุกแห่ง แต่เนื่องจากอาจใช้สารพิษกำจัดแมลงเป็นไปโดยขาดความรู้และความรับผิดชอบบางรายใช้ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ใช้สารพิษร่วมกันหลายชนิด และการเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนครบกำหนดระยะเก็บเกี่ยว จากการใช้สารพิษกำจัดแมลงทำให้สารพิษยังสลายตัวไม่หมด และตกค้างอยู่ในผัก ผลไม้ นอกจากนั้นยังมีสารพิษจำนวนหนึ่งตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น ในดินและน้ำ จะเข้าไปสะสมในผักผลไม้ ยากแก่การกำจัดหรือลดปริมาณลง
ฉะนั้นเมื่อเรารับประทานผักและผลไม้ สารพิษนั้นก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรง หากมีสารพิษตกค้างในร่างกายในปริมาณที่มาก จะทำให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวง อาจมีอาการหน้ามืด วิงเวียน ปวดศีรษะ ตกใจง่ายมองไม่ชัด อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน เป็นตะคริว ชักกระตุก แน่นหน้าอก เหงื่อออกมาก   รูม่านตาหรี่เล็กน้ำตา-น้ำมูก-น้ำลายไหล ผิวหนังเป็นตุ่มนูน กล้ามเนื้อสั่นกระตุก
ด้วยเหตุนี้เราชาวเจทั้งหลายควรมีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อผักผลไม้ที่ไม่มีสารพิษตกค้าง หรือมีก็มีในจำนวนน้อยที่สุด เพื่อปัองกันไม่ให้ร่างกายของเราสะสมสารพิษจนเกิดเป็นอันตรายขึ้นมา
ไม่ควรเลือกชื้อผักที่มีใบสวยงามมากนัก ควรเลือกที่มีรูพรุนบ้าง แสดงว่าแมลงยังกินได้ เราก็กินได้เช่นกัน เนื่องจากใช้ยาฆ่าแมลงน้อยนั่นเอง ผักประะเภทกินหัวจะสะสมพิษตกค้างในดินมากกว่าผักกินใบ ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกผักที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง หรือใช้บ้างเล็กน้อย เช่น ตำลึง กระถิน ผักบุ้งถั่วงอก หัวปลี ดอกโสน  ดอกแค หน่อไม้ เป็นต้น
ปัจจุบันในบางจังหวัดมีการปลูก “ผักกางมุ้ง” ที่ว่านี้หมายถึงผักที่ปลูกโดยใช้ตาข่ายไนล่อนกางปิดเพื่อป้องกันแมลงลงกัดกิน จึงไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง
ส่วนผลไม้นั้นหากมิได้ขึ้นตามกิ่งและผล แสดงว่าอาจไม่มีสารพิษตกค้างหรือมีไม่มาก เลือกผลไม้ที่ชาวบ้านปลูกตามธรรมชาติไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง เช่น กล้วย มะละกอไม่เลือกผลไม้ที่มีรูพรุนหรือมีรอยแตก เช่น ส้มต้องเลือกผิวเรียบไม่มีรูหรือรอยแตกเมื่อชื้อผักผลไม้มาแล้ว ต้องล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย  ครั้งควรล้างโดยใช้น้ำก๊อกไหลผ่านนานอย่างน้อย  นาที  ยิ่งดี หรืออาจใช้สารละลายอย่างใดอย่างหนึ่งล้างดังนี้
น้ำยาล้างผัก
น้ำด่างทับทิม ประมาณ ๕ เกล็ดใหญ่ต่อน้ำ  ๔    ลิตร
น้ำเกลือ  ช้อนโต๊ะพูนๆ ต่อน้ำ  ลิตร
น้ำซาวข้าว ใช้ข้าวสาร  กิโลกรัม ต่อน้ำ ๔ ลิตร (เวลาหุงข้าวเทน้ำเก็บไว้)
น้ำส้มสายชู ใช้ครึ่งถ้วยต่อน้ำ  ลิตร
โซดาทำขนม โดยใช้ผงโซดา  ช้อนโต๊ะต่อ น้ำ  ลิตร
ผลไม้ที่เปลือกบางหรือผักกินสดเปลือกบางสามารถกินได้ทั้งเปลือก แต่ควรล้างให้สะอาดโดยหลังจากล้างด้วยสารละลายอย่างหนึ่ง ล้างด้วยน้ำสะอาดตาม การกินทั้งเปลือกจะได้รับวิตามินซีสูงกว่าปอกเปลือก
หากสามารถทำได้เช่นนี้แล้ว เราชาวเจทั้งหลายก็จะได้รับสารพิษที่ตกค้างในผักและผลไม้น้อยมากหรือแทบจะไม่ได้รับสารพิษเลยก็ว่าได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น